สรุปข้อมูลโครงการคนละครึ่งพลัส (คนละครึ่ง 2568)
เอกสารฉบับนี้สรุปข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโครงการ
"คนละครึ่งพลัส" หรือ "คนละครึ่ง 2568" ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรี
อนุทิน ชาญวีรกูล โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงปลายปี 2568
โครงการนี้จะเริ่มในเดือนตุลาคม
2568 และให้สิทธิ์การใช้จ่ายได้เป็นเวลา 2 เดือน
คือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2568 โดยแบ่งผู้ได้รับสิทธิ์ออกเป็น 3 กลุ่มหลัก
ได้แก่ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (13 ล้านคน), ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี (9 ล้านคน),
และผู้ที่อยู่ในระบบภาษี
(11 ล้านคน) ซึ่งจะได้รับวงเงินสนับสนุนที่แตกต่างกันไป
การลงทะเบียนคาดว่าจะดำเนินการผ่านช่องทางเดิมคือเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com
และแอปพลิเคชัน
"เป๋าตัง" อย่างไรก็ตาม
รายละเอียดและหลักเกณฑ์สุดท้ายยังต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการคลัง
--------------------------------------------------------------------------------
ภาพรวมและวัตถุประสงค์ของโครงการ
โครงการ "คนละครึ่งพลัส" ได้รับการประกาศโดยนายอนุทิน
ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี
โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้เห็นผลอย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรมภายในช่วงปลายปี
2568
- ผู้กำกับดูแล: นายภราดร ปริศนานันทกุล
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลสำนักงบประมาณ ได้เปิดเผยว่าในเฟสแรกจะให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นลำดับแรก
- งบประมาณเบื้องต้น: มีการประมาณการใช้วงเงินประมาณ 22,000
กว่าล้านบาทสำหรับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- ช่วงเวลาดำเนินโครงการ: จะเริ่มดำเนินการในช่วงเดือนตุลาคม 2568
โดยจะสามารถใช้สิทธิ์ได้เป็นระยะเวลา 2
เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึง ธันวาคม 2568
คุณสมบัติและกลุ่มเป้าหมายผู้รับสิทธิ์
โครงการได้กำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นและแบ่งกลุ่มผู้รับสิทธิ์ไว้อย่างชัดเจน
โดยมีจำนวนสิทธิ์รวมทั้งสิ้น 20 ล้านสิทธิ์
- คุณสมบัติด้านอายุ: ผู้มีสิทธิ์ต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป
- เงื่อนไขการลงทะเบียน: ผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนในโครงการคนละครึ่ง
เฟส 5 จะต้องดำเนินการลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด
โดยต้องรอรายละเอียดจากกระทรวงการคลังอีกครั้ง
การแบ่งกลุ่มผู้ได้รับสิทธิ์และวงเงินสนับสนุน
โครงการ "คนละครึ่งพลัส" แบ่งผู้ได้รับสิทธิ์ออกเป็น 3
กลุ่มหลัก
ดังนี้
กลุ่มเป้าหมาย |
จำนวนผู้มีสิทธิ์ |
วงเงินและเงื่อนไขการสนับสนุน |
ระยะเวลาการใช้สิทธิ์ |
1. ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ |
13 ล้านคน |
รัฐบาลจะเติมเงินเพิ่มให้อีก 1,700 บาท
จากเดิมที่ได้รับ 300 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น
2,000 บาท (เติมให้ครั้งเดียว) |
พฤศจิกายน - ธันวาคม 2568 |
2. ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี |
9 ล้านคน |
ได้รับเงิน 2,000 บาท
(รูปแบบร่วมจ่าย 50:50) โดยสามารถใช้จ่ายได้ วันละไม่เกิน
200 บาท |
พฤศจิกายน - ธันวาคม 2568 |
3. ผู้ที่อยู่ในระบบภาษี |
11 ล้านคน |
ได้รับเงิน 2,400 บาท
(รูปแบบร่วมจ่าย 50:50) โดยสามารถใช้จ่ายได้ วันละไม่เกิน
200 บาท |
พฤศจิกายน - ธันวาคม 2568 |
ช่องทางและขั้นตอนการลงทะเบียน
จากการดำเนินโครงการในอดีต คาดว่าประชาชนจะสามารถลงทะเบียนได้ผ่าน 2
ช่องทางหลัก
อย่างไรก็ตาม สถานะของช่องทางดังกล่าวยังไม่พร้อมให้บริการและต้องรอการยืนยันข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
1. เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com
- ขั้นตอน:
- กดเมนู
"ลงทะเบียนรับสิทธิ์สำหรับประชาชน"
- กรอกข้อมูลส่วนบุคคลและหมายเลขโทรศัพท์มือถือ
- รอรับ SMS ยืนยันผลการลงทะเบียนภายใน 3 วัน
- สถานะปัจจุบัน: จากการตรวจสอบ ณ วันที่ 28 กันยายน
2568 เว็บไซต์ยังไม่สามารถใช้งานได้
(แสดงผลเป็นหน้าว่างสีขาว)
2. แอปพลิเคชัน "เป๋าตัง"
- ขั้นตอน:
- ต้องทำการผูกบัญชีกับ G-Wallet (กระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์)
- กดที่แถบ "โครงการคนละครึ่ง"
เพื่อยืนยันตัวตนและรับสิทธิ์
- ผู้ใช้ต้องเติมเงินเข้า G-Wallet ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Mobile
Banking, QR Code PromptPay หรือตู้
ATM
- เมื่อต้องการชำระเงิน ให้เข้าแอปฯ
"เป๋าตัง" เลือกเมนูคนละครึ่ง และสแกน QR Code ของร้านค้าเพื่อใช้สิทธิ์
ขั้นตอนการติดตั้งและสมัครแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" (อัปเดต 2568)
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน: ค้นหา "เป๋าตัง" จาก App
Store (สำหรับ iOS) หรือ
Google Play (สำหรับ Android) แล้วกดติดตั้ง
- เปิดใช้งาน: เปิดแอปฯ และให้ความยินยอมในการจัดการข้อมูล
- เตรียมข้อมูล: เตรียมบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อใช้ถ่ายรูป
และกรอกเบอร์โทรศัพท์มือถือเพื่อรับรหัส OTP
- ยืนยันตัวตน: สามารถเลือกยืนยันตัวตนได้ 2 วิธี
- ผ่าน Krungthai NEXT: สำหรับผู้ที่มีบัญชีธนาคารกรุงไทย
- สแกนใบหน้า: สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
- ตั้งรหัส
PIN: ตั้งรหัส PIN 6 หลัก
และเปิดใช้งานการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า (Face ID) หรือลายนิ้วมือ
(Touch ID)
- เสร็จสิ้น: ยอมรับเงื่อนไขการใช้งาน และรอระบบตรวจสอบ
เมื่อสำเร็จ การ์ด G-Wallet จะปรากฏบนหน้าจอหลักของแอปฯ
เงื่อนไขการใช้สิทธิ์ (อ้างอิงจากโครงการในอดีต)
เงื่อนไขการใช้จ่ายสำหรับโครงการคนละครึ่ง 2568 คาดว่าจะอ้างอิงตามหลักเกณฑ์เดิม
ดังนี้
- การใช้จ่ายครั้งแรก: ผู้ได้รับสิทธิ์ต้องเริ่มใช้จ่ายครั้งแรกภายในระยะเวลาที่โครงการกำหนด
- ร้านค้าที่เข้าร่วม: สามารถใช้จ่ายได้เฉพาะกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
โดยผู้ใช้สิทธิ์ชำระผ่านแอปฯ "เป๋าตัง" และร้านค้ารับเงินผ่านแอปฯ
"ถุงเงิน"
- เวลาการใช้สิทธิ์: สามารถใช้สิทธิ์ได้ในช่วงเวลา 06:00 น.
ถึง 23:00 น. ของทุกวัน
- การคำนวณสิทธิ์รายวัน: หากใช้สิทธิ์ไม่หมดในแต่ละวัน
ระบบจะคืนสิทธิ์ที่เหลือเข้าสู่ยอดรวม และจะคำนวณสิทธิ์ใหม่ในเวลา 06:00
น. ของวันถัดไป
- วงเงินใช้จ่ายต่อวัน: สำหรับกลุ่มที่ร่วมจ่าย 50:50 กำหนดวงเงินใช้จ่ายสูงสุดไม่เกิน
200 บาทต่อคนต่อวัน (แตกต่างจากเฟส 5 ที่กำหนดไว้
150 บาทต่อวัน)
หมายเหตุ: ข้อมูลทั้งหมดในเอกสารนี้อ้างอิงจากแหล่งข่าว ณ วันที่ 29
กันยายน 2568 รายละเอียดสุดท้ายของโครงการยังต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง